มารู้จัก "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้ชนะศึก "ปธน.สหรัฐ" เขย่าโลก !!

มารู้จัก "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้ชนะศึก "ปธน.สหรัฐ" เขย่าโลก !!

โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน มหาเศรษฐีอเมริกันวัย 70 ปี ผู้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะผู้ท้าชิงประธานาธิบดีที่ไม่ได้มีประสบการณ์ทางการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนฯ หรือวุฒิสภามาก่อน สร้างความประหลาดใจตั้งแต่การคว้าชัยชนะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันที่เอาชนะคู่แข่งทั้งแนวขวากลางและขวาตกขอบ จนมาถึงชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน นักการเมืองผู้มีประสบการณ์โชกโชนเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและสตรีหมายเลขหนึ่งมาแล้ว ด้วยสโลแกน “นำอเมริกากลับมายิ่งใหญ่”

ภาพอดีตที่ทรัมป์พบปะฮิลลารี คลินตัน
ภาพอดีตที่ทรัมป์พบปะฮิลลารี คลินตัน

นายทรัมป์สร้างชื่อเสียงในอเมริกาและทั่วโลก ในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐ อันดับที่ 156 และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก อันดับที่ 324 จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีของนิตยสารฟอร์บส์ประจำปี 2559 นับจากเข้าสู่การเป็นนักธุรกิจในแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมผลิตรายการทางโทรทัศน์ ในฐานะประธานเครือบริษัทยักษ์ใหญ่ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น ธุรกิจหลักด้านอสังหาริมทรัพย์ สร้างสถานที่ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งทั่วโลก อาทิ ทรัมป์ ทาวเวอร์ และตึกสูงหลายแห่งในสหรัฐ โรงแรมหรูห้าดาว กาสิโน และสนามกอล์ฟ

นายทรัมป์เกิดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2489 และเติบโตมาในมหานครนิวยอร์ก จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์จากสำนักวิชาวาร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในปี 2529 และเข้ารับบริหารบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างต่อจากพ่อ คือนายเฟร็ด ทรัมป์

จากนั้นไม่เพียงสร้างชื่อเสียงในอเมริกา ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะเจ้าของการประกวดมิสยูนิเวิร์ส มิสยูเอสเอ และมิสทีนยูเอสเอ ขณะที่ทรัมป์เองยังรู้จักผู้มีชื่อเสียงทั่วไปในวงการต่างๆ รวมถึงการเมืองที่รู้จักมักคุ้นกับนายบิลและนางฮิลลารี คลินตันด้วย

ไม่เท่านั้น ทรัมป์ยังรับเชิญเป็นแขกร่วมรายการทางโทรทัศน์หลายรายการ พร้อมกับรับบทเป็นผู้ผลิตและกำกับรายการ “ดิแอพเพรนทิส”

e11046bb-8860

ในทางการเมือง มหาเศรษฐีเรียลลิตี้ผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกด้วยการเสนอตัวเป็นผู้แทนพรรคปฏิรูปลงชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐในปี 2543 แต่ถอนตัวออกมาก่อนที่พรรคจะลงมติเลือกผู้แทน กระทั่งในปี 2558 นายทรัมป์กลับเข้าสู่สนามการเมืองอย่างเปรี้ยงปร้าง ท่ามกลางกระแสฝ่ายขวามาแรงเนื่องจากสถานการณ์หวาดผวาผู้ก่อการร้ายแทรกซึมเข้ามากับผู้อพยพ นายทรัมป์ประกาศจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามของพรรครีพับลิกันในเดือนมิ.ย.2558

CEDAR RAPIDS, IA - OCTOBER 28: Republican Presidential candidate Donald J. Trump speaks to supporters during a rally at the McGrath Amphitheater on October 28, 2016 in Cedar Rapids, Iowa. Trump touted the FBI's renewed investigation into Hillary Clinton, prompting the crowd to repeatedly respond with "Lock Her Up" among other chants. Several thousand were in attendance. David Greedy/Getty Images/AFP
AFP

นายทรัมป์เก็บคะแนนนิยมจากกลุ่มอนุรักษนิยม นำผู้เข้าแข่งขันรายอื่นมาอย่างต่อเนื่องด้วยเอกลักษณ์วาทะเร้าใจและนโยบายขวาเข้มข้น ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง บางครั้งลุกลามถึงขั้นการประท้วงหลายครั้ง และเป็นที่เฝ้าติดตามสนใจของสื่อทั่วโลก เนื่องจากคำกล่าวหลายครั้งของนายทรัมป์มักก่อให้เกิดการวิจารณ์และพาดพิงผู้อื่น รวมทั้งบางครั้งนั้นไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง

แม้ว่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ทรงอิทธิพลในพรรครีพับลิกันหลายคน รวมถึงตระกูลบุชที่มีประธานาธิบดีมาแล้ว 2 คน แต่นายทรัมป์กลับเดินหน้าโกยคะแนนจากกลุ่มประชาชนเอียงขวา ทั้งกลุ่มฐานะยากจนที่เห็นว่านายทรัมป์จะช่วยทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ไปจนถึงกลุ่มร่ำรวยที่ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มภาษีผู้มีรายได้สูงเพื่อนำไปใช้ในด้านสวัสดิการสุขภาพ ตามนโยบายของประธานาธิบดีบารัก โอบามา

โดนัลด์ ทรัมป์ /AFP
โดนัลด์ ทรัมป์ /AFP

ในช่วงท้ายของการหาเสียงนายทรัมป์ยังเผชิญกับข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรีหลายคน หลังคลิปรายการที่นายทรัมป์สนทนากับพิธีกรเมื่อ 7 ต.ค. 2548 แพร่กระจายไปในโลกออนไลน์ เผยให้เห็นต่อแนวคิดของทรัมป์ที่ดูถูกเหยียดหยามสตรี ทั้งยังมีสตรีอีกหลายคนทยอยกันออกมากล่าวหาว่าเคยถูกนายทรัมป์คุกคามทางเพศ ส่งผลให้นายทรัมป์ถูกบีบให้ขอโทษ แต่ยืนยันว่า เป็นความพยายามหันเหความสนใจทางการเมือง และต้องการใส่ร้ายป้ายสี

นโยบายสุดขั้วอื่นๆ ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ทั้งการฟื้นฟูการค้าการลงทุน รวมไปถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสหรัฐกับจีนและรัสเซีย มหาอำนาจขั้วตรงข้ามกับสหรัฐ ทั้งยังเคยชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ว่าเป็นผู้นำที่น่าเกรงขามไม่อ่อนแอเหมือนนายโอบามา นอกจากนี้ยังต่อต้านนโยบายของนายโอบามา ไม่ว่าความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา และข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือทีพีพี กับบรรดาชาติพันธมิตรของสหรัฐ

หลังเหตุวินาศกรรมกรุงปารีสเมื่อปี 2558 นายทรัมป์เคยเรียกร้องให้ทางการสหรัฐห้ามบุคคลที่เป็นชาวมุสลิมเข้าประเทศ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นว่านโยบายของตนจะจำกัดอยู่เพียงชาวมุสลิมที่มาจากประเทศที่มีประวัติเป็นแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้าย จนกว่าการปฏิรูปกระบวนการตรวจสอบบุคคลเข้าเมืองใหม่ของสหรัฐจะแล้วเสร็จ หลังจากเพิ่งนำเสนอแผนสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐที่ติดกับประเทศเม็กซิโก เพื่อลดปัญหาผู้ลักลอบเข้าเมืองและขบวนการขนยาเสพติดจากเม็กซิโก

ในการโต้วาทีใหญ่กับนางฮิลลารี 3 ครั้ง ผลสำรวจคะแนนนิยมของนายทรัมป์ออกมาตามหลังนางฮิลลารีทุกครั้ง แต่นายทรัมป์ยังคงกล่างอย่างมั่นใจว่าจะคว้าชัยชนะในท้ายที่สุดให้ได้ อีกทั้งยังไม่รับปากว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งออกมาหรือไม่ เพราะเชื่อว่าจะมีการโกงเกิดขึ้น อีกทั้งยังระบุว่าหากตนชนะการเลือกตั้งจะให้นางคลินตันถึงกับเข้าคุก

จุดหักเหสุดท้ายที่เขย่าคะแนนเสียงของผู้สมัครทั้งสองให้กลับมาสูสีอีกครั้งเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 8 พ.ย. เมื่อนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ส่งจดหมายแจ้งต่อสภาคองเกรสว่าจะฟื้นการสอบสวนคดีการใช้อีเมล์ส่วนตัวในข้อราชการของนางคลินตัน เนื่องจากมีหลักฐานเพิ่มเติม ทำให้นายทรัมป์ได้ทีพูดตีขลุมว่า เอฟบีไอคงจะกู้อีเมล์ที่ถูกลบไปมาเป็นหลักฐานเอาผิด กระทั่งต่อมา 1 วันก่อนการเลือกตั้ง เมื่อผอ.เอฟบีไอคนเดิมส่งจดหมายแจ้งสภาอีกว่าจะไม่มีตั้งข้อหาใดๆ ทำให้นายทรัมป์หยิบยกมาโจมตีว่าเป็นการเล่นสกปรกทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 พ.ย. หรือตรงกับวันที่ 9 พ.ย. ตามเวลาไทย โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในที่สุด

สำหรับชีวิตสมรส ทรัมป์แต่งงานครั้งแรกกับนางแบบสาวชาวเช็ก อิวานา เซลนิโควา เมื่อปี 2520 ที่แมนฮัตตัน มีลูกด้วยกัน 3 คน ได้แก่ โดนัลด์ จูเนียร์ ลูกชาย อิวานกา ลูกสาว และเอริก ลูกชาย ปัจจุบันลูกๆ ทั้งสามมีตำแหน่งบริหารในทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน

ทรัมป์และอิวานา
ทรัมป์และอิวานา

ทรัมป์มีปัญหาเลิกกับอิวานา เพราะไปมีรักซ้อนกับดาราสาว มาร์ลา เมเปิลส์ ทำให้อิวานา ซึ่งได้สัญชาติอเมริกันในปี 2531 ยื่นฟ้องหย่าทรัมป์ในปี 2533 พร้อมตำหนิทรัมป์ว่าเป็นคนใจร้ายใจดำ แต่หลังเวลาผ่านไปพักใหญ่ อิวานาให้สัมภาษณ์ในปี 2558 ว่าตนกับทรัมป์ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ทรัมป์และเมเปิลส์
ทรัมป์และเมเปิลส์

สำหรับสาวเมเปิลส์ มีลูกสาวกับทรัมป์ 1 คน ชื่อ ทิฟฟานี จากนั้นจึงแต่งงานกันในแ 2536 ก่อนแยกทางในปี 2540 และเสร็จสิ้นกระบวนการหย่าในปี 2542

ทรัมป์-บาร์รอน-เมลาเนีย / AFP PHOTO / SAUL LOEB
ทรัมป์-บาร์รอน-เมลาเนีย / AFP PHOTO / SAUL LOEB

ระหว่างนั้นทรัมป์จึงเริ่มสัมพันธ์กับสาวคนใหม่ เมลาเนีย คเนาส์ นางแบบสาวชาวสโลวีเนีย ในปี 2541 และสาวคนนี้กลายมาเป็นคู่ครองทรัมป์ในปัจจุบัน โดยมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ชื่อ บาร์รอน วิลเลียม ทรัมป์