เวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุบรองเท้าสตั๊ดของตัวเองกับซุ้มม้านั่งสำรองของ คริสตัล พาเลซ ระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ต้นสังกัดบุกไปชนะอีกฝ่าย 2-1 ถึงสนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค เมื่อวันพุธที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจที่ทีมไม่ได้ลูกจุดโทษ

          ในนัดดังกล่าวมีอยู่จังหวะหนึ่งที่ดูเหมือนว่า โจ เล็ดลี่ย์ นักเตะของ พาเลซ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ในตอนที่สกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 แต่กรรมการ เคร็ก พอว์สัน ไม่เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ จนทำให้ รูนี่ย์ ไม่พอใจมากๆ

          ทั้งนี้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษยังเดือดดาลไม่หายตอนโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม เมื่อเขาเอารองเท้าสตั๊ดไปทุบกับกระจกของซุ้มม้านั่งสำรอง ก่อนที่จะหยุดเมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ หันมามองเขา

          ด้าน มูรินโญ่ ก็ออกมายืนยันเช่นกันว่าที่ รูนี่ย์ เอาสตั๊ดทุบกับซุ้มม้านั่งสำรองเป็นเพราะโมโหที่ไม่ได้ลูกจุดโทษ ไม่ใช่เพราะฉุนที่โดนเปลี่ยนตัวออกแต่อย่างใด พร้อมบอกว่าตนกับลูกทีมคนดังไม่ได้บาดหมางกันด้วย

          กุนซือชาวโปรตุกีส เผยว่า "เขาโมโหกับการที่น่าได้ลูกจุดโทษ เขาบ่นกับผู้ตัดสินที่ 4 ตรงม้านั่งสำรอง เขาไม่พอใจมากๆ แต่ผมบอกกับเขาว่า -ช่างมันเถอะ อย่าสนใจเลย- แม้ว่าตอนนั้นเราจะเสมออยู่ 1-1 ก็ตาม"

          "ผมไม่เห็นจังหวะนั้นหรอกนะ สิ่งเดียวที่ผมพูดได้ก็คือเกมนี้กรรมการตัดสินได้ดีแล้ว เขาเป็นหนึ่งในกรรมการดาวรุ่งที่ฝีมือดี และผมก็ชอบการทำงานของเขา ถ้าเขาทำพลาด มันก็ถือเป็นโชคร้ายสำหรับเขาและสำหรับเราด้วย แต่เขาตัดสินได้ดีมากๆ และคุณก็ต้องสนับสนุนเขา ก็เหมือนตอนที่ โรเบิร์ต แมดลี่ย์ ลงเป่าในเกมกับ ท็อตแน่ม นั่นแหละ มันเป็นเกมใหญ่สำหรับกรรมการที่ยังอายุน้อย ดังนั้นมันจึงนับเป็นโอกาสที่ดีของพวกเขา" มูรินโญ่ ระบุ