หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ยอดสโมสรลูกหนังแห่งเวที ลา ลีกา สเปน เผยว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับศักยภาพของทีมตนอยู่แล้ว หลังจากที่ บาร์ซ่า เปิดรัง คัมป์ นู ไล่ต้อน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่จากเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส 6-1ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง เมื่อวันพุธที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา พลิกสถานการณ์ทะลุเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ได้อย่างเหลือเชื่อ

          ด้วยการที่เลกแรกออกไปแพ้ เปแอสเช ถึง 0-4 ทำให้ไม่มีใครกล้าคิดว่า บาร์เซโลน่า จะสร้างปาฏิหาริย์ได้ กระนั้น หลุยส์ ซัวเรซ ก็โขกทำประตูให้ บาร์ซ่า ขึ้นนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 3 และจากนั้นนาทีที่ 40 เจ้าถิ่นก็หนีเป็น 2-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เลย์แว็ง กูร์กซาว่า ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

          เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 5 นาที บาร์ซ่า มาได้ประตูขึ้นนำ 3-0 จากการสังหารลูกจุดโทษเข้าไปของ ลิเอเนล เมสซี่ ทำให้ บาร์เซโลน่า มีลุ้นพลิกสถานการณ์เข้ารอบขึ้นมาทันที แต่นาทีที่ 62 เปแอสเช มาได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 3-1 จาก เอดินสัน คาวานี่ ทำให้นักเตะและแฟนๆ บาร์เซโลน่า ถึงกับหมดกำลังใจ

          อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อ เนย์มาร์ ยิงฟรีคิกสุดสวยให้ทีมขึ้นนำ 4-1 ในนาทีที่ 88 และนาทีที่ 91 บาร์ซ่า มาได้ประตู 5-1 จากการสังหารลูกโทษของ เนย์มาร์ คนเดิม และในที่สุดปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริงในนาทีที่ 95 เมื่อ เนย์มาร์ เปิดบอลจากลูกฟรีคิกให้ เซร์จี้ โรเบร์โต้ จิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้ บาร์เซโลน่า คว้าชัยด้วยสกอร์ 6-1 พลิกนรกตบเท้าเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายสำเร็จ ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 6-5

          "มันเป็นค่ำคืนที่เหลือเชื่อมาก เราคว้าชัยชนะตามที่เราต้องการในเกมที่ผมคิดว่า มันแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว ตอนที่พวกเขาไล่ขึ้นมาเป็น 3-1 มันดูเหมือนทุกอย่างจบลงเรียบร้อย แต่สุดท้ายฟุตบอลมันเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ผมแฮปปี้มากๆ เมื่อคุณมีทีมแบบนี้, ทีมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแชมเปี้ยนส์ และประสบความสำเร็จได้แชมป์มาแล้วมากมายล่ะก็ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ" เอ็นรีเก้ กล่าว